postheadericon มนุษย์เรามีกายอยู่ ๔ กาย

เราจึงถึงความเป็นเทวดา ถึงความเป็นพรหมถึงความเป็นพระอรหันต์ ก็ด้วยการปฏิบัติ   เจาะเข้าไปด้วยการปฏิบัติของเรานี้แหละ   หรือว่าคั่นเข้าไปเกี่ยวด้วย สติปัญญาพยายามปลดเปลื้อง  จากตัณหา อุปทาน     ความยึดมั่นใน สรีระร่างกายเรานี้ออกไป  กายทิพย์ ก็จะปรากฎ   แต่ถ้าหมดกิเลส กายพระอรหันต์ก็จะปรากฎ   เพราะฉนั้นท่านผู้รู้จึงกล่าวว่าถ้าอยากเป็นพรหมก็ปฏิบัติเอา   อยากเป็นเทวดาก็ปฏิบัติเอา  อยากเป็นมนุษย์ก็ปฏิบัติเอา  ถ้าไม่ปฏิบัติมันก็จะไม่ได้   ถ้าปล่อยไปตามอำนาจ  ความโลภ  ความโกรธ  ความหลง  มันก็จะไปสู่อบาย  แต่เมื่อปฏิบัติละส่วนหยาบ  หรือกิเลสทั้งหลาย ดังที่กล่าวมาข้างต้น  ก็จะถึงกายละเอียดเป็นชั้นเป็นชั้นไปจนถึงกายอรหันต์ หรือธรรมกาย  ความจริง มันก็อยู่ไม่ไกล  เราท่านทั้งหลาย ถ้าเราปฏิบัติกันจริงๆจังๆ  มันก็จะถึงได้  แต่ถ้าไม่ปฏิบัติกันจริงๆจังๆ มันก็จะไม่ถึงกายอันเป็นกายทิพย์มีอยู่  ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรแก่เรา      กายพรหมมีอยู่เราไม่ปฏิบัติมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรแก่เรา  ธรรมกายหรือกายพระอรหันต์ถ้าเราไม่ปฏิบัติให้หมดกิเลส มันก็ไม่ก็ได้ประโยชน์อะไรแก่เรา   ก็เพียงสักแต่ว่ากายเท่านั้นเอง   ในที่นี้ท่านพระคุณเจ้าได้กล่าวถึงกายอันมี สามกายโดยย่อๆก็ขอยุติลงเพียงเท่านี้

แก้ไขล่าสุด (วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2012 เวลา 12:23 น.)